ฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตรต้องทำอย่างไร
1.2 ผลตรวจ DNA หากไม่มีสูติบัตร หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสายเลือด ผลตรวจDNAจะช่วยยืนยันความเป็นพ่อแม่บุตร
1.3 ทะเบียนบ้านที่ระบุชื่อบุตรและบิดามารดา
1.4 ใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆของบุตร เช่น ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ค่าอุปกรณ์การเรียน เป็นต้น
1.5 สลิปเงินเดือนของบิดามารดา หากไม่มีให้ใช้หนังสือรับรองเงินเดือน หรือใบเสร็จรับเงินจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น
1.6 ข้อตกลงร่วมกันหากมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตร
1.7 พยานบุคคล เช่น บุคคลที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตร เช่น ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน หรือครูของบุตร
2. ศาลที่ยื่นฟ้อง การฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร ควรยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวในจังหวัดที่บุตรมีภูมิลำเนาอยู่ เหตุผลที่ต้องยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว เนื่องจากศาลประเภทนี้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงคดีเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรด้วย ศาลเยาวชนและครอบครัวจะมีความเชี่ยวชาญในการพิจารณาคดีประเภทนี้ และสามารถให้คำแนะนำหรือคำสั่งที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กได้เป็นอย่างดี
3. ปัจจัยที่ศาลใช้พิจารณาในการกำหนดค่าเลี้ยงดูบุตร การกำหนดค่าเลี้ยงดูบุตรนั้นศาลจะพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เพื่อให้ได้จำนวนเงินที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทั้งบุตรและผู้ต้องชำระค่าเลี้ยงดู อาทิเช่น ความต้องการของบุตร อายุของบุตร สุขภาพของบุตร ความต้องการด้านการศึกษา อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ฐานะทางการเงินของบิดามารดา หนี้สิน ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ต้องรับผิดชอบ ความสามารถในการหารายได้ในอนาคตของบิดามารดา เป็นต้น