แชร์

สัญญาเช่าทำอย่างไร

อัพเดทล่าสุด: 30 ส.ค. 2024
173 ผู้เข้าชม

          การเช่าทรัพย์สินถือว่าเป็นนิติกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนึ่ง เพราะปัจจุบันนอกจากการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการซื้อขายหรือการให้แล้ว คนบางกลุ่มเขาก็แค่ต้องการใช้สอยทรัพย์สินโดยไม่ได้มีเจตนาอยากเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น เช่น การเช่ารถยนต์รายวัน  การเช่าหอพัก  การเช่าที่ดิน  หรือการเช่าคอนโดมิเนียม เป็นต้น ผู้เช่าอาจต้องการแค่ใช้สอยทรัพย์สินที่เช่าเท่านั้น  หรือบางคนอาจจะยังไม่มีเงินมากพอที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าว จึงต้องอาศัยการที่จะเช่าแทน  วันนี้ผมจะมายกตัวอย่างสัญญาเช่าครับ ดังที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 บัญญัติว่า

          "เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น  ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ  ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่  ถ้าเช่ามีกำหนดกว่า 3 ปีขึ้นไป  หรือกำหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร์  หากมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่  ท่านว่าการเช่านั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียง 3 ปี "

          นอกจากนี้แล้วยังมีมาตรา 540 บัญญัติไว้ว่า 

          "อันอสังหาริมทรัพย์  ท่านห้ามมิให้เช่ากันเป็นกำหนดเวลาเกินกว่า 30 ปี  ถ้าได้ทำสัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลานานกว่านั้นท่านก็ให้ลดลงมาเป็น 30 ปี
          อนึ่งกำหนดเวลาเช่าดังกล่าวมานี้  เมื่อสิ้นลงแล้วจะต่อสัญญาอีกก็ได้  แต่ต้องอย่าให้เกิน 30 ปีนับแต่วันต่อสัญญา"

          ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น การทำสัญญาเช่าจึงต้องมีการแสดงออกถึงเจตนาของคู่สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร  วันนี้ผมจึงจะขอยกตัวอย่างสัญญาเช่า ดังนี้ ครับ 

ตัวอย่างสัญญาเช่า

สัญญาเช่า 

วันที่ 1 กันยายน 2567
          สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นที่ บริษัท งานดี จำกัด บ้านเลขที่ 11/11 ถนนสามัคคี ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
          ระหว่าง บริษัท งานดี จำกัด โดยนางสาวมานี งานดี กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0000000000001 บ้านเลขที่ 11/11 ถนนสามัคคี ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า  "ผู้ให้เช่า"  ฝ่ายหนึ่ง  
          กับ บริษัท ชอบเช่า จำกัด โดยนายสอง ชอบเช่า กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 1111111111112 อยู่บ้านเลขที่ 22/22 ถนนสามัคคี ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า  "ผู้เช่า"  อีกฝ่ายหนึ่ง
          คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทําสัญญากัน โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดดังต่อไปนี้
          ข้อ 1. ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าสิ่งปลูกสร้างเลขที่ 33/33 ถนนประชาชื่น ซอยสามัคคี ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัด นนทบุรี 11120 เพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการร้านอาหารชื่อ "ชอบเช่า เรสเตอร์รองค์"
           ข้อ 2. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงเช่าทรัพย์สินตามข้อ 1. มีกําหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2570
          ข้อ 3. ผู้เช่าตกลงชําระเงินค่าเช่าเดือนละจํานวน 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ให้แก่ผู้ให้เช่าล่วงหน้าเป็นรายเดือน
          ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ชำระค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเองตามจํานวนที่แจ้งในเครื่องวัดเมื่อใช้กระแสไฟฟ้าและน้ำประปาครบ 1 เดือนแล้ว
          ผู้ให้เช่าเป็นผู้ชำระค่าภาษีที่ดินและค่าภาษีโรงเรือน
          ผู้เช่าจะต้องวางเงินเป็นประกันจำนวน 2 เดือน เป็นเงินจำนวน 40,000 บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) โดยผู้ให้เช่าจะคืนให้เมื่อผู้เช่ามิได้ผิดสัญญาและมิได้ค้างชําระหนี้ตามตามสัญญานี้       
           ในการชำระค่าเช่าตามวรรค 1 ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาตามวรรค 2 นั้น ผู้เช่าจะต้องชําระค่าเช่าภายในวันที่ 5 ของแต่ละเดือน  โดยจะชําระให้แก่ผู้ให้เช่า ณ ที่ทําการของผู้ให้เช่าหรือโอนผ่านบัญชีธนาคารของให้ผู้เช่า  และผู้ให้เช่ามีหน้าที่ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินค่าเช่าพร้อมค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาให้แก่ผู้เช่าก่อนครบกำหนดชำระไม่น้อยกว่า 5 วัน
           ข้อ 4. ทรัพย์สินที่เช่าตามข้อ 1. ผู้เช่าจะนําไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง  หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้  หรือได้รับประโยชน์หรือโอนสิทธิของตนที่มีอยู่ตามสัญญานี้ให้ผู้อื่นไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วนนั้นไม่ได้  เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือ
          ข้อ 5. ในวันทําสัญญานี้  ผู้ให้เช่าได้ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าแก่ผู้เช่าแล้วและผู้เช่าได้ตรวจดูแล้วเห็นว่าอยู่ในสภาพปกติที่ผู้เช่าจะได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ตามวัตถุประสงค์แห่งการเช่านี้ทุกประการแล้ว  โดยผู้เช่าได้ชำระเงินค่าเช่าของเดือนกันยายน 2567 และเงินประกันตามข้อ 3. รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 60,000 บาท (หกหมื่นบาทถ้วน) ให้แก่ผู้ให้เช่าแล้วในวันทำสัญญานี้
          ข้อ 6. ผู้ให้เช่ายินยอมให้ทรัพย์สินที่เช่าเป็นสถานประกอบการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการของผู้เช่า  และผู้ให้เช่าจะต้องส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องอันอยู่ในความครอบครองของตนให้แก่ผู้เช่าเพื่อให้ผู้เช่านำไปยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
          ข้อ 7. ผู้เช่าต้องจัดการซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่าให้อยู่ในสภาพปกติตลอดไป  บรรดาทรัพย์สินหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ที่ผู้เช่าหรือบุคคลอื่นใดนํามาติดตั้งตรึงตรากับทรัพย์สินที่เช่าผู้เช่าจะรื้อถอนหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใดกระทําการรื้อถอนโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่ามิได้  เว้นแต่ระยะเวลาของสัญญานี้ได้สิ้นสุดลงโดยผู้เช่ามีหน้าที่ต้องจัดการทรัพย์สินที่เช่าให้ให้มีสภาพตามเดิม
          ข้อ 8. ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าจะเข้าตรวจดูทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมเป็นครั้งคราวในระยะเวลาอันสมควรก็ได้ โดยต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบก่อนอย่างน้อย 3 วัน และการเข้าตรวจดังกล่าวต้องไม่กระทบต่อกิจการของผู้เช่า  ถ้าผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าเห็นว่าทรัพย์สินที่เช่าอยู่ในสภาพชํารุดทรุดโทรมและ/หรือน่าจะเป็นอันตรายเสียหาย  ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนจะแจ้งให้ผู้เช่ากระทําการแก้ไขหรือซ่อมแซมด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่าเอง  ซึ่งผู้เช่าจะต้องรีบดําเนินการแก้ไขซ่อมแซมภายใน 30 วัน หากละเลยหน้าที่ตามข้อนี้และเกิดความเสียหายขึ้น  ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดจากการละเลยนี้ด้วย  แต่ถ้าเป็นการแก้ไขซ่อมแซมใหญ่และความชํารุดทรุดโทรมและ/หรือน่าจะเป็นอันตรายเสียหายนั้น  มิได้เกิดจากการกระทำของผู้เช่า  ผู้ให้เช่าจะต้องเป็นผู้ออกทุนทรัพย์ในการแก้ไขซ่อมแซมใหญ่เอง                  
          ข้อ 9. ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์สินที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 1. แห่งสัญญานี้มิได้
          ข้อ 10. ในระหว่างอายุแห่งการเช่าตามสัญญานี้  ถ้ามีเหตุจําเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำการแก้ไขซ่อมแซมใหญ่ในระบบงานโครงสร้างอาคาร ระบบงานโครงสร้างสาธารณูปโภค หรือระบบงานอื่นๆอันเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เช่า ถ้าผู้ให้เช่าประสงค์จะทําการเช่นว่านี้  ผู้เช่าจะไม่ยินยอมให้ทําเช่นนั้นมิได้  แม้ว่าการนั้นจะเป็นการไม่สะดวกแก่ตนก็ตาม  แต่ถ้าการแก้ไขซ่อมแซมดังกล่าวใช้เวลานานเกินกว่า 30 วัน ผู้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญาก็ได้ โดยผู้ให้เช่าต้องคืนเงินประกันให้แก่ผู้เช่าเต็มจำนวน
          ข้อ 11. ถ้าทรัพย์สินที่เช่านั้นชํารุดบกพร่อง  หรืออยู่ในสภาพที่น่าจะเกิดความเสียหาย  หรือเป็นอันตราย  หรือมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดที่วิญญูชนทั่วไปเห็นว่าน่าจะต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง  เพื่อปัดป้องภยันตรายใดๆอันจะเกิดมีขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าก็ดี  หรือมีบุคคลภายนอกรุกล้ำเข้ามาในบริเวณทรัพย์สินที่เช่าก็ดี  หรือมีบุคคลภายนอกเรียกร้องอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งเหนือทรัพย์สินที่เช่าก็ดี  หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลใดน่าจะไม่ใช่ตัวแทนของผู้ให้เช่าในการติดต่อกับผู้เช่าเกี่ยวด้วยการปฏิบัติการตามสัญญานี้ก็ดี  ผู้เช่ามีหน้าที่จะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบโดยพลัน  เว้นแต่ผู้ให้เช่าจะได้ทราบถึงเหตุดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว
          ข้อ 12.  ผู้เช่าจะทําการดัดแปลง  ต่อเติม  หรือรื้อถอนทรัพย์สินที่เช่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าหาได้ไม่  ถ้าผู้เช่ากระทําการโดยมิได้รับความยินยอมเช่นว่านี้  ผู้ให้เช่าจะเรียกให้ผู้เช่าทําทรัพย์สินที่เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมและให้ผู้เช่ารับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากความสูญหายหรือบุบสลายอันเนื่องมาจากการดัดแปลง ต่อเติม หรือรื้อถอนนี้ด้วยก็ได้  เว้นแต่เป็นการดัดแปลงหรือต่อเติมเพื่อความสวยงามหรือเพื่อประโยชน์ของกิจการของผู้เช่า  และการดัดแปลงหรือต่อเติมดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและต้องเป็นการทำให้มูลค่าของทรัพย์สินที่เช่าเพิ่มขึ้นด้วย
          ข้อ 13. ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าเพราะความผิดของผู้เช่าหรือลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้เช่า
          ข้อ 14. ผู้เช่าจะต้องสงวนรักษาทรัพย์สินที่เช่าเสมอด้วยวิญญูชนจะสงวนรักษาทรัพย์สินของตนเอง และจะต้องทําการรักษาความสะอาดตามปกติวิสัยและเทศบัญญัติ  เพื่อไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนรําคาญและเสื่อมสุขภาพแก่ผู้อยู่ใกล้เคียง  อีกทั้งต้องไม่กระทําการใดๆอันจะเป็นเหตุให้เดือดร้อนรําคาญหรือเสื่อมสุขภาพแก่ผู้อยู่ข้างเคียงด้วย
          ข้อ 15. ผู้เช่าจะต้องไม่ละทิ้งทรัพย์สินไว้ในที่เช่าโดยปราศจากความครอบครองดูแลของผู้เช่าหรือลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้เช่าไม่ว่าเวลาใดๆ  และในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจําเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เช่าจําต้องละทิ้งทรัพย์สินที่เช่าไป  ผู้เช่าจะต้องรีบแจ้งผู้ให้เช่าทราบโดยพลันแต่มิให้เกิน 24 ชั่วโมง นับแต่ได้ละทิ้งไป
          ในกรณีที่ผู้เช่าละทิ้งทรัพย์สินที่เช่าดังกล่าวในวรรคแรกติดต่อกันเป็นเวลากว่า 30 วัน โดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือจําเป็นให้ผู้ให้เช่าทราบ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายให้ถือโดยปริยายว่าสัญญาเช่านี้เป็นอันยกเลิกไปโดยทันที
          ถ้าคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์  ล้มละลาย  หรือกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ  ให้ถือว่าสัญญานี้เป็นอันยกเลิกโดยทันที
          ข้อ 16. ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด  คู่สัญญาอีกฝ่ายจะใช้สิทธิต่อไปนี้  แต่เพียงข้อหนึ่งข้อใดหรือรวมกันหรือทั้งหมดก็ได้
(1) บอกเลิกสัญญา
(2) เรียกค่าเสียหาย
(3) บอกกล่าวให้ปฏิบัติตามสัญญาภายในกําหนดที่ผู้บอกกล่าวเห็นสมควร
           บรรดาคําบอกกล่าวใดๆ ซึ่งคู่สัญญาจะพึงส่งให้แก่กันนั้นให้ส่งเป็นหนังสือไปยังภูมิลำเนาของคู่สัญญาที่ให้ไว้ข้างต้นของสัญญาฉบับนี้
          ข้อ 17. ในกรณีที่ผู้เช่าผิดนัดชําระค่าเช่า  ผู้เช่าจะต้องชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 (ห้า) ต่อปี ของต้นเงินที่ค้างชําระนับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จให้แก่ผู้ให้เช่า
          ข้อ 18.  ในกรณีที่สัญญานี้เลิกกันไม่ว่าเพราะเหตุใด  ผู้เช่าจะต้องขนย้ายทรัพย์สินแล้วส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าคืนให้แก่ผู้ให้เช่าในสภาพเดิมก่อนทำสัญญานี้  ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่สัญญาเลิกกัน
          ข้อ 19. ในกรณีที่สัญญานี้ครบกำหนดตามสัญญาและผู้เช่าประสงค์จะต่อสัญญาเช่า  ผู้เช่าต้องส่งคำเสนอเป็นหนังสือขอต่อสัญญาเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าไม่น้อยกว่า 60 วัน ก่อนครบกำหนดตามสัญญานี้  และหากผู้ให้เช่าประสงค์จะให้เช่าทรัพย์สินที่เช่าต่อ ผู้ให้เช่าต้องส่งคำสนองเป็นหนังสือให้แก่ผู้เช่าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนครบกำหนดตามสัญญานี้ และต้องทำสัญญาใหม่ให้แล้วเสร็จก่อนสัญญานี้สิ้นสุดลง หากผู้ให้เช่าไม่ยอมทำสัญญาภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ขยายระยะเวลาตามสัญญา ข้อ 18. ออกไปอีก 30 วัน
          ข้อ 20. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า นอกจากที่ปรากฏรายละเอียดและเงื่อนไขในสัญญานี้แล้ว  มิได้มีการตกลงหรือมีเงื่อนไขอื่นใดด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรนอกเหนือไปจากนี้ไม่ว่าจะมีมาก่อนหรือภายหลังสัญญานี้  การแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อความในสัญญานี้จะทําได้ต่อเมื่อคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ลงลายมือชื่อในสัญญาที่ได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อความ  และได้ระบุไว้ในต้นฉบับแห่งสัญญาดังกล่าวที่คู่สัญญาเก็บไว้ด้วยว่าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมข้อความในสัญญานี้
          สัญญานี้ทำขึ้นเป็น 2 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน  คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยละเอียดตลอดแล้วจึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน  และต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ                                                             
ลงชื่อ..............................................ผู้ให้เช่า
(บริษัท งานดี จำกัด โดยนางสาวมานี งานดี กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน)
ลงชื่อ............................................ผู้เช่า
(บริษัท ชอบเช่า จำกัด โดยนายสอง ชอบเช่า กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน)
ลงชื่อ.....................................................พยาน
(..........................................................)
ลงชื่อ.....................................................พยาน
(..........................................................)

 

****** และนี่ก็เป็นตัวอย่างสัญญาเช่าสามารถนำไปปรับใช้ได้เลยครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง
ฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตรต้องทำอย่างไร
ฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตรต้องทำอย่างไร
30 ส.ค. 2024
การขอปล่อยตัวชั่วคราวคืออะไร
การขอปล่อยตัวชั่วคราวคืออะไร มีวิธีการและขั้นตอนอย่างไร
29 ส.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy